วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค และ สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (PATA) ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้จะเป็นแรงผลักดันในการจัดงาน Travel & Tech Asia 2025 ครั้งแรก ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 2–3 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
บันทึกความเข้าใจดังกล่าวได้รับการลงนามอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ณ สำนักงานใหญ่ PATA ในกรุงเทพมหานคร นายนูร์ อาหมัด ฮามิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ PATA และ นายชัยสงค์ ชูฤทธิ์ ผู้จัดการทั่วไปของ วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค เป็นตัวแทนของทั้งสององค์กรในการลงนามข้อตกลงครั้งสำคัญครั้งนี้ งาน Travel & Tech Asia 2025 จะเป็นเวทีสำคัญสำหรับนวัตกรรม การเติบโตอย่างยั่งยืน และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในอุตสาหกรรมการเดินทาง และการท่องเที่ยว และเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานในเชิง B2B ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ซึ่งจะเป็นแนวทางให้กับเทคโนโลยีการเดินทาง และถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตในภูมิภาคเอเชีย
“วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับ
PATA ซึ่งเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมการเดินทาง และการท่องเที่ยวทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”
นายชัยสงค์ ชูฤทธิ์
ผู้จัดการทั่วไปของ วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค กล่าว “ด้วยความร่วมมือนี้
เรามุ่งมั่นที่จะสร้างแรงกระเพื่อมที่สำคัญ โดยจัดให้มีแพลตฟอร์มที่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมสามารถสำรวจเทรนด์ใหม่
ๆ สร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ และนำนวัตกรรมที่กำหนดอนาคตของการเดินทาง และการท่องเที่ยวมาใช้”
นายนูร์ อาหมัด ฮามิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ PATA เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือ
โดยกล่าวว่า “การผสานข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรมของ PATA เข้ากับความเชี่ยวชาญของ
วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค ในการจัดนิทรรศการ
ความร่วมมือนี้จะส่งเสริมการทำงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนภาคส่วนการเดินทาง และการท่องเที่ยวให้ก้าวไปข้างหน้า เราจะใช้เทคโนโลยีเพื่อปลดล็อกศักยภาพของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
และนำอุตสาหกรรมเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง”
นางสาว
ปนัดดา ก๋งม้า รองประธานสายงานธุรกิจ ของ วีเอ็นยู
เอเชีย แปซิฟิค กล่าวถึงความสำคัญของงานนี้ว่า “Travel
& Tech Asia 2025 ไม่ใช่แค่เพียงนิทรรศการเท่านั้น
แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับอุตสาหกรรมการเดินทาง และการท่องเที่ยว
แพลตฟอร์มนี้จะกำหนดนิยามใหม่ให้กับการเดินทางและเชื่อมต่อกับโลกของเรา
ขณะเดียวกันก็เสริมสร้างการท่องเที่ยวให้เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”
This press release has also been published on VRITIMES